ประวัติของแบบย่อ

โรงเรียน St. Paul’s ก่อตั้งขึ้นในปี 1823 John William Ricketts ผู้นำชาวอินเดีย จากเมือง Calcutta มีความคิดที่จะสร้างโรงเรียนเพื่อตอบสนองความต้องการ ทางการศึกษาของชุมชนชาวอังกฤษและแองโกลอินเดียที่กำลังเติบโตใน เมือง Calcutta และได้ตั้งเป็นสถาบันการศึกษาขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม ศ.ศ.1823 จัดตั้งขึ้นโดยผู้ปกครองและเริ่มทำงานในรูปสถาบันการศึกษาที่อยู่คือ 11, Park Street between the Archbishop House เป็นโรงละครเก่า ผู้บริหารคือ Dr. George Smith.ในปี ศ.ศ. 1847 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงเรียน St. Paul’s School โดยบาทหลวง Wilson ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิหารเซนต์ปอลในเมือง Calcutta ในช่วง ศ.ศ.1863 โรงเรียนที่อยู่ในความยากลำบากและบาทหลวง Wilson ตัดสิน ใจ ย้ายโรงเรียนมาอยู่ที่เมืองดาร์จีลิ่งจนถึงปัจจุบันเป็นโรงเรียนประจำชาย ล้วนที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียเป็นที่รู้จักใน เรื่องของระบบการศึกษาดีเลิศและศิษย์เก่าของโรงเรียนที่มีชื่อเสียง

ตั้งอยู่บนภูเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,400 เมตรโรงเรียน St. Paul’s เป็นโรงเรียนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงแห่งหนึ่งในเอเชีย และมีสมาคมนักเรียนเก่าในประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศ การเข้าศึกษามีการแข่งขันสูง โรงเรียน St. Paul’s มีนักเรียนกว่า 800คนทั้งในอินเดียและจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป โรงเรียนบริหารงานโดย Church of North India โรงเรียนมีขนาด280,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ความโดดเด่น

โรงเรียน St. Paul’s เป็น ที่รู้จักในเรื่องของระบบการศึกษาดีเลิศและศิษย์เก่าของโรงเรียนที่มีชื่อ เสียง ได้รับรางวัลด้านวิชาการ กีฬาและกิจกรรมมากมาย ตามผลการสำรวจโรงเรียนปี 2009 ของนิตยสาร Education World จัดอันดับให้เป็นโรงเรียนประจำที่ดีที่สุดในอินเดียตะวันออก และอันดับเจ็ดของโรงเรียน ทั้งหมดในอินเดีย ในปี 2010-2011 โรงเรียน ยังคงติดอันดับหนึ่งในสิบของโรงเรียนที่ดีที่สุดของอินเดีย และยังโรงเรียนที่ดีที่สุดในอินเดียตะวันออก เป็นโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงในด้านวิชาการแห่งหนึ่งในอินเดีย มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ที่ทำงานในแวดวงการเงิน การเมือง การทูต ทหารและกฎหมาย บุคลากรของโรงเรียนมาจากเมืองต่างๆ ทั่วอินเดีย อาจารย์ที่สอนระดับมัธยมปลายต้องจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย อินเดียหรือต่างประเทศเป็นอย่างน้อย สำหรับระดับกลางและระดับต้น อาจารย์ที่สอนเป็นอาจารย์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีแล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของอาจารย์หัวหน้าชั้น เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนส่วนใหญ่พักอยู่ในบริเวณโรงเรียน

หลักสูตรการศึกษา

หลักสูตร ICSE และ ISC ซึ่ง เป็นหลักสูตรของคณะกรรมการกลางของอินเดีย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวเดลี ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลรัฐเวสต์เบงกอล โรงเรียนแบ่งเป็นระดับต้น (ชั้น 1-5) ระดับกลาง (ชั้น 6-8) และระดับปลาย (ชั้น 9-12) ทั้ง 3 ระดับ แยกออกจากกัน ระดับต้นจะมีแคมปัสแยกจากระดับกลางและระดับปลาย มีชุดนักเรียนต่างออกไป ส่วนระดับกลางและระดับปลายมักใช้อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันเป็น ส่วนใหญ่ นอกจากวิชาการโรงเรียนยังให้ความสำคัญกับกีฬา เช่น คริกเก็ต ฮ็อกกี้ เทนนิส สควอช วอลเล่ย์บอล ฟุตบอล วิ่งมาราธอน บาสเก็ตบอล ฯ โรงเรียนมีโรงยิมขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์กีฬามากมายสำหรับการเพาะกาย การต่อยมวย ยิมนาสติก อีกทั้งยังมีกิจกรรมชุมชนและชมรมต่างๆ มากมาย เช่น ชมรมการละคร เพลงสากล ถ่ายภาพ ช่างไม้ ช่างหนัง คอมพิวเตอร์

ความเป็นอยู่

เนื่องจากการ เป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียง โรงเรียนจึงให้ความเข้มงวดในเรื่องความประพฤติของนักเรียน อธิการบดีถือเป็นหัวหน้าของโรงเรียน มาสเตอร์อาวุโสดูแลการทำงานในแต่ละวันของโรงเรียน ซึ่งจะดูแลระดับปลายควบคู่ไปด้วย ในขณะที่ระดับต้นและระดับกลาง ดูแลบริหารงานโดยหัวหน้าระดับนั้นๆ แผนกต่างๆ ของโรงเรียนอยู่ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ โดยมีเลขานักเรียนเป็นผู้ช่วย นอกจากอาจารย์ โรงเรียนยังมีผู้คุมนักเรียนที่คอยดูแลเรื่องส่วนตัวของนักเรียน นักโภชนาการดูแลเรื่องอาหารของนักเรียน นักเรียนต้องเข้าโบสถ์เป็นประจำ

เงื่อนไขในการรับสมัครนักเรียน

รับสมัครสมัครนัก เรียนตั้งแต่ Class 1-6, Class 7-12 ในช่วงเดือนสิงหาคม – ธันวาคม ของทุกปี หรือตามความเหมาะสมของโรงเรียน

รายละเอียดค่าใช้จ่ายสำหรับ St. Paul School โดยประมาณ

– ในปีแรกค่าใช้จ่ายค่าเรียนประจำปี ให้กับโรงเรียน คือ ค่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าซักผ้า และอื่นๆ
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 250,000 – 300,000 บาท
– ค่าชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดนอน ถุงเท้า ผ้าห่ม หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ร่ม และอื่น มากกว่า 40 ชิ้น
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25,000 บาท
– ในปีถัดไป ค่าใช้จ่ายจะลดลงเรื่อยๆ ทุกปี เหลือประมาณปีละ 200,000 บาท

หมายเหตุ: ค่าใช้จ่าย ยังไม่รวมค่าการ์เดี่ยนดูแล

ช่วงปิดเทอมในแต่ละปี มี 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 เดือน มิถุนายน ของทุกปี ประมาณ 14 วัน
ครั้งที่ 2 เดือน ตุลาคม ของทุกปี เทศกาลเดวาลี และหยุดเทศกาลฮินดู ประจำปีของอินเดีย ประมาณ 14 วัน)
ครั้งที่ 3 เดือน ธันวาคม – มีนาคม ของทุกปี

นักเรียนต้องกลับเข้าโรงเรียนตามที่กำหนด ถ้ากลับช้ากว่ากำหนด จะถูกทำโทษ และเสียค่าปรับ

หมายเหตุ : ทางโรงเรียน อาจมีการเปลี่ยนแปลงความความเหมาะสมของโรงเรียน

Author

Write A Comment